วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2560

เครื่องไล่หนูระบบ 3 คลื่น ต่างจากเครื่องไล่หนูระบบ 1 คลื่น อย่างไร




น้อยสุดแต่บารมีของพระรูปนั้นๆ การซ่องสุมกำลังคนอย่างน้อยจากการที่พระราชทานทาสให้เป็นแรงงานทำการผลิตถวายวัด ทั้งมีเลกวัด คือไพร่สมที่ใช้แรงงานถวายวัดแทนการอยู่เวรตามเกณฑ์เข้าเดือน ซึ่งทำงานไฝหนักเท่าพวกทาสที่เป็นข้าพระ วัดยังมีแรงงานอีกชนิด คือพวกโยมสงฆ์ หมายถึงญาติพี่น้องพระที่สอบเปรียญได้สำเร็จ ซึ่งไม่ถูกเกณฑ์แรงงานไพร่รับใช้หลวง นอกนั้นยังมีลูกคืษย์ที่ฝากตัวเข้ามาเรียนวิชาความรู้ วัดจึงเป็นสถาบันสังคมที่สำคัญมาแต่โบราณ และอำนาจทางบ้านเมืองต้องสอดส่อง ต้องสำรวจบุคคลที่อยู่อาคัยวัดเรียกว่า “สมณครัว” ต้นศัพท์ สำมะโนครัว ต้องกำหนดคุณสมบัติของพระที่สืบพระศาสนาว่าต้องเรียนรู้อันใดบ้าง พร้อมกับวัดผลความรู้ด้วยการ “สอบไล่” คือถ้าสอบไม่ผ่านก็ต้องพ้นภิกขุภาวะ กลับสู่ฐานะทาสหรือไพร่ตามสถานะดั้งเดิม หากไม่ใช้วิธีวัดผลสอบไล่ อำนาจปกครองโบราณย่อมประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ที่สอบได้มีความดีความชอบเป็นธุระในพระศาสนา  เครื่องไล่หนูราคา จึงมีพระสมณคักดิ้ผู้ปกครองแผ่นดินสมัยโบราณต้องเอาใจใส่พระศาสนา เนื่องจากเป็นอุดมการณ์ทางลังคม และผู้นำทางสังคมต้องล่งเสรีมและพิทักษ์อุดมการณ์ โดยบำรุงพระเถร เณร ชี เหตุผลในการประกาศสงครามก็อ้างการปกป้องพระศาสนา เพี่อคุ้มครองสมณชีพราหมณ์ขณะเดียวกันพระก็สอนคืลธรรมกล่อมเกลาช่วยทางการบ้านเมืองด้วยประมุขเป็นผู้มีบุญบารมีและการทำให้คนมีคืลธรรมย่อมง่ายแก่การปกครอง เพราะเกิดการยอมรับการปกครองทางวิญญาณหรือจิตใจจึงสังเกตได้ง่ายว่าหากจะมีฝ่ายก่อกบฏก็จะอ้างความมีบุญของผู้นำกบฏเช่น เป็นพระศรีอาริย์ หรือจะนำไปสู่สังคมพระศรีอารีย์ จึงเรียกกันว่ากบฏผีบุญ  เป็นต้นการเป็นมหาราชสมัยโบราณของกษ้ต่ริย๎ในภูมิภาคนี้ จึงหมายถึงการเป็นธรรมราชา ดังนั้น ทำให้ต้องอุปถัมภ์พระศาสนาอย่างสำคัญ

เป็นพระราชภาระต่อการถวายปัจจัยไทยธรรม การเป็นธุระในการปกครองตลอดจนการดักษาเล่าเรียนของพระสงฆ์ พระภิกษุสงฆ์เมื่อสัมพันธ์ใกล้ชิดกับชนชั้นนำก็มีหน้าที่ถวายศีลและการอบรมสังสอนเป็นการถ่วงดุลอำนาจทางหนึ่ง สมมติเทวราชไทยจึงไม่ใคร่โหดร้ายดุจสมมติเทวราชในบางประเทศที่รับอิทธิพลฮินดูเต็มที่ จนเป็นเทวดาจริงๆ  กำจัดหนู ในมโนทัศน์ความสัมพันธ์ของศาสนจักรกับอาณาจักรมีผลเกื้อหนุนต่อกันเมื่อบ้านเมืองวิบัติศาสนาหรือสถาบันสงฆ์ย่อมพลอยเศร้าหมอง ครั้งเสียกรุงและต้องกู้กรุง ภายหลังจากนั้นต้องพันฟูพระศาสนาเสมอนอกจากระหว่างเสียกรุงจะรับผลกระทำของข้าดักที่กระทำต่อพระศาสนาแล้ว ปัจจัยภายในของสถาบันสงฆ์เอง ย่อมเกิดอลัชชีขึ้นระหว่างบ้านเมืองระสํ่าระสายด้วย ดังจะเห็นว่าเมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชตั้งกรุงธนบุรีแล้ว หรือแม้ก่อนนั้น พอชำระอธิกรณ์ เช่นพระภิกษุหัวเมืองฝ่ายเหนือ ก๊กพระเจ้าฝางก็ทรงชำระอธิกรณ์ตามแบบแผนพิธีกรรม ในทางทำนุบำรุงก็ทรงพระราชอุตสาหะรวบรวมพระไตรปิฎก ตั้งสมณดักส์ถวายพระราชาคณะและแสดงพระองค์สนพระทัยต่อการปฏิบัติธรรม หากในที่สุดเมื่อสำคัญว่าพระองค์เป็นพระอริยบุคคลจึงอาราธนาพระสงฆ์มาวิสัชชนาพระธรรมวินัยว่าพระภิกษุสมมติสงฆ์จะไหว้คฤหัสถ์อริยะได้หรือไม่ พระเถรานุเถระนั้นแตกเป็นสองฝ่ายในการถวายพระพรแก้กระทู้ธรรม ผลจากการแตกแยกในหมู่สงฆ์ปลายแผ่นดินกรุงธนบุรีนั้น จึงต้องชำระอธิกรณ์อีกคราวหนึ่งเมื่อต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ทั้งถอดสมณดักดื้ให้ลาสิกขาก็มี นอกไปจากได้กระทำสังคายนาพระไตรปิฎก ควบคู่กับชำระกฎหมายดังที่เรียกว่าประมวลกฎหมายรัชกาลที่ 1  เครื่องไล่หนูไฟฟ้า หรือกฎหมายตราสามดวงพร้อมกับตรากฎพระสงฆ์พระภิกษุที่ถูกชำระอธิกรณ์เมื่อรัชกาลที่ า กับรัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์พบว่านอกจากเหตุทางการเมืองและทัศนะต่อการ




วินิจฉัยพระธรรมวินัย เรื่องพระราชปุจฉาของสมเด็จพระเจ้าตากสินแล้วพระราชาคณะชั้นผูใหญ่ก็ต้องอธิกรณ์ขั้นปฐมปาราชิกมีลูกเมีย เนื่องจากคิดว่าการที่พระศาสนาเป็นด้วยปลายสมัยใกล้กึ่งพุทธกาลแล้วจะรักษาให้ดีดังแต่ก่อนสุดวิสัยนัก จึงเพียงทำตามคติ “สักแต่ผ้าเหลืองห้อยหู”ไว้รอพระศรีอารีย์มาโปรด การชำระอธิกรณ์โดยเฉพาะสมัย ร. 2 คณะสังฆการีประกอบด้วยกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ต่อมาคือ ร. 3 กับกรมหลวงรักษ์รณเรศ หรือต่อมาคือหม่อมไกรสร  เครื่องไล่หนูในรถยนต์ ถูกทิ้งบัตรสนเท่ห์โจมตีเพราะลูกคืษย์พระที่มีอิทธิพลปกป้องอาจารย์ตน แม้เป็นบัตรสนเท่ห์ก็จับสำนวนกวีของพระเจ้าลูกยาเธอชั้นพระองค์เจ้าใน ร. 1 ได้ เจ้านายพระองค์นั้นจึงถูกคุมขังและสินพระชนม้ในคุกในที่สุดหม่อมไกรสรได้ว่าการทางพระศาสนาในตำแหน่งสำคัญต่อมาถึงแผ่นดินรัชกาลที่ 3 ฝ่ายกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นรัชกาลที่ 3 แล้ว ดูจะทรงทำนุบำรุงพระศาสนาโดยสร้างวัด ไม่โปรดการมหรสพ และทั้งเลิกอากรค,านํ้า เพื่อคนจะได้ละปาณาติบาตไม่จับสัตว์นั้าเป็นอาหาร กับบำรุงการศึกษาสงฆ์ทั้งการเล่าเรียนและทั้งมีพระราชปุจฉา เพื่อให้สงฆ์ใส่ใจศึกษาค้นคว้า ที่เคยชำระอธิกรณ์ดูจะทรงละวางเพราะยกถวายไป เช่นมีผู้กราบบังคมทูลเรื่องพระเตะตะกร้อกลับมาพระราชปรารภว่า “เจ้าถูอยากจะเตะบ้างก็ช่างเจ้าถูเถิด” ทั้งนี้สุดแต่พระราชวินิจฉัยว่าเรื่องใดมีนัยสำคัญ เช่น ทรงสะเทือนพระ-ราชหฤทัยเมื่อทราบว่าพระภิกษุสมเด็จพระวชิรญาณ  ขณะทรงผนวชได้ทรงห่มจีวรแหวกดังพระมอญ ก็ปริวิตกว่าแผ่นดินไทยจะกลายเป็นมอญพม่า ดังมีพระราชปรารภกับสมเด็จกรมพระยาเดชาดิศรทั้งทรงอ้างถึงว่ายังมีพระที่รักษาแบบแผนดีเสมอครั้งบ้านเมืองดี คือสมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรสตรัสชมว่าเป็นพระภิกษุศรีอยุธยาให้หารือเพื่อแกไขเถิด พระภิกษุรัชกาลที่ 4 ขณะยังไม่ทรงครองราชย์จึงแกไขการห่มครองจีวรตามแผนไทย แล้วสงฆ์ธรรมยุตหวนกลับมา

เครื่องไล่หนู